วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

มะรุม

มะรุม ชื่อสามัญ Moringa

มะรุมเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบ ๆ ประเทศ อินเดีย ศรีลังกา และแอฟริกา เป็นพืชปลูกง่าย เจริญได้ดีในดิทุกชนิด ต้องการน้ำสำหรับการเจริญเติบโตและความชื้นในอากาศปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการปักชำกิ่ง เมล็ดพันธุ์งอกเร็ว ใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ ต้นกล้าสามารถสูงได้ประมาณ 10-20 เซนติเมตร
มะรุม จัดเป็นพืชผักพื้นบ้านของไทย มีประโยชน์มากมายอเนกประสงค์ ทั้งทางด้านอาหาร ยาและอุตสาหกรรม เป็นพืชยืนต้นที่โตเร็ว ทนแล้งได้ดีมาก ปลูกง่ายในเขตร้อน สามารถเติบโตได้สูงถึง 4 เมตรและยังออกดอก ติดผลได้ภายในปีแรกที่ปลูก ใบเป็นใบประกอบคล้ายกับขนนก ชนิดที่แตกใบย่อย 3 ชั้น ยาว 20 - 40 เซนติเมตร ออกเรียงแบบสลับ ใบย่อยยาว 1 - 3 เซนติเมตร รูปไข่ ปลายใบและฐานใบมน ผิวใบด้านล่างสีอ่อนกว่าและมีขนเล็กน้อยขณะที่ใบยังอ่อน ใบมีรสหวานมัน ออกดอกในฤดูหนาว บางพันธุ์ออกดอกหลายครั้งในรอบปี ดอกเป็นดอกช่อสีขาว กลีบเรียง มี 5 กลีบแยกกัน ดอกมีรสขม หวาน มันเล็กน้อย ผลเป็นฝักยาว เปลือกสีเขียวมีส่วนคอดและส่วนมน เป็นระยะ ๆ ตามยาวของฝัก ความยาวฝัก 20 - 50 เซ็นติเมตร มีรสหวาน เมล็ดเป็นรูปสามเหลี่ยม มีปีกบางหุ้ม 3 ปีก เส้นผ่าศูนย์กลางของเมล็ดประมาณ 1 เซนติเมตร มะรุมมีชื่อเรียกตามท้องถิ่นต่าง ๆ ชื่ออื่นอีกเช่น “บะค้อนก้อม” (ภาคเหนือ)“ผักอีฮุมหรือบักฮุ้ม” (ชาวอีสาน) ชาวกะเหรี่ยงแถบกาญจนบุรีเรียก “กาแน้งเดิง” ส่วนชาวฉานแถบแม่ฮ่องสอนเรียก “ผักเนื้อไก่” เป็นต้น

ต้นมะรุม


          มะรุมอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุรวมมากมายหลายชนิด ซึ่งวิตามินที่สำคัญในมะรุมที่เด่นมากคือมีวิตามินเอ ซี แคลเซียม โพแทสเซียม และธาตุเหล็กในปริมาณที่สูงมาก นอกจากนี้มะรุมยังมีคุณสมบัติเป็นยาสมุนไพรใช้ในการรักษาโรคได้หลายชนิด แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรจะมองว่ามะรุมเป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรค แต่ควรจะมองมันเป็นผักพื้นบ้านที่มีประโยชน์กับร่างกายจะเหมาะกว่า เพราะการศึกษาหลายอย่าง ๆ ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทดสอบลิงค์

ขับเคลื่อนโดย Blogger.