วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

น้ำมันมะรุม


ประโยชน์ ของ น้ำมันมะรุม สกัดเย็น บริสุทธิ์


- ชะลอริ้วรอย บำรุงผิว เส้นผม นวดตัว ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และอีกมากมาย

          ประมาณ 90% ของการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังคนเรา เกิดจากถูกแสงแดดทั้งทางตรง หรือ ผ่านเสื้อผ้าที่เราสวมใส่  แสงอุลตราไวโอแลต ไม่เพียงแต่ทำลายดีเอ็นเอในเซลล์ผิวหนังเท่านั้น แต่ ยังสกัดกั้น กลไกการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังที่เสียหายของร่างกาย จากการสะสมของอนุมูลอิสระ (Antioxidant)  เมื่อ ความยึดหยุ่น ของ ผิวหนังลดลง  ผิวหนังจะแห้งขึ้น ชั้นไขมันที่อุ้มความชุ่มชื้นใต้ผิวหนังก็จะหายไป  ขณะที่ ร่างกายสูญเสียความชุ่มชื้น ในชั้นไขมัน และ ส่วนของเนื้อเยื่อ ที่เชื่อมกัน ผิวของเรา จะเริ่มหย่อนยาน ปรากฎเป็นริ้วรอย เกิดขึ้น

          น้ำมันมะรุม มีวิตามินเอ มีคุณสมบัติ ข่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ผิว และเป็นตัวสร้างเส้นใยคอลลาเจนภายใต้ผิวหนัง และวิตามินเอ ในน้ำมันมะรุม มีประสิทธิภาพสูง ในการลอกเซลล์ผิวเก่า หรือ เซลล์ที่ตายออกไปแล้ว คุณสมบัติเหล่านี้เอง ที่เป็นพื้นฐาน ช่วยลดการเกิดของริ้วรอยเหี่ยวย่น น้ำมันะมะรุม มีวิตามินเอ มากเป็น 4 เท่า ของ วิตามินที่อยู่ใน แครอท



-  ผิวสวย หน้าใส อ่อนกว่าวัย สดใส

          น้ำมันมะรุม มีวิตามินซี  เป็น 0.5 เท่า ของวิตามินซี ที่ได้จากผลส้ม วิตามินซี มีหน้าที่สำคัญ เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ (Anit- Oxidant)  ซึ่งสารอนุมูลอิสระ (Oxidant) เป็นสารที่ทำให้เซลล์เสื่อมหรือผิดปกติ  วิตามินซี ช่วยขจัดสารพิษ และ ซ่อมแซม รักษา บาดแผลในเนื้อเยื่อผิว ทุกส่วนของร่างกาย อย่างมีประสิทธิภาพ  นอกจาากจะสร้างแล้ว วิตามินซี ยังทำให้ คอลลาเจนคงทนถาวร



-  บำรุงใบหน้า ผิวพรรณ เพื่อผิว อ่อนนุ่ม อ่อนเยาว์ สดชื่น อ่อนกว่าวัย

          น้ำมันมะรุม มี วิตามินอี ซึ่งเป็นสารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ (Anit- Oxidant)  ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง และขจัดสารพิษ การทาวิตามินอีบนผิวหนัง จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และเรียบเนียนของผิวหนัง เพราะทำงานคล้ายฟองน้ำที่ช่วยดูดซับอนุมูลอิสระ (Oxidant)  ก่อนที่จะเข้าถึงเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผนังเซลล์แข็งแรง และทนต่อแสงแดดได้ดีขึ้น เครื่องสำอางส่วนใหญ่ใช้วิตามินอี เป็นส่วนประกอบ เพื่อช่วยกระชับผิวพรรณ และ ชะลออริ้วรอยก่อนวัย



- บำรุงผม และ หนังศีรษะ เพื่อเส้นผม ที่แข็งแรง เงางาม

          น้ำมันมะรุม มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระถึง 46 ชนิด  การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดในเวลาเดียวกัน ย่อมให้ผลดีกว่าการมีสารเพียงตัวเดียวปริมาณเท่ากัน น้ำมันมะรุม มีลักษณะที่เบาบางกว่านัำมันมะกอก ทำใก้การดูดซับเข้าสู่ร่างกายผ่านชั้นผิวหนังเข้าสู่กระแสโลหิตได้รวดเร็วและเห็นผลมากกว่า เหมาะในการบำรุงผิวพรรณ  ทำให้ผิวหนังฟื้นคืนมีชีวิตชีวา และ นุ่มนวล ช่วยให้ผิวที่แตกแห้งและโรยรา กลับมาชุ่มชื้นใหม่ น้ำมันมะรุมอุดมไปด้วยกระด โอลิอิก ให้ความชุ่มชื้น ชำระล้าง และ บำรุงรักษา จึงเหมาะที่ใช้ ดูแลผิวพรรณ บำรุงเส้นผม และใช้ นวดตัว (Massage oil)



- ประโยชน์อื่นๆ  (จากหนังสือ ต้นไม้เพื่อชีวิต)

- น้ำมันมะรุม ใช้ทาผิวหน้า ช่วยชะลอริ้วรอยของผิว อันเป็นผลจากการโดนแดด หรือ การเสื่อมตามวัย
- ช่วยบำรุงผิว ให้ชุ่มชื้น อ่อน นุ่ม เนียน ชะลอ ความเหี่ยวย่นของผิว
- ใช้ทาแผลสด เล็กๆ น้อยๆ ผื่นคัน ตามข้อมพับ ของเด็กเล็ก และ แผลกดทับของคนชรา
- ใช้ ถู นวด ตัว เป็น massage oil บรรเทา อาการปวด บริเวณที่ปวด ตาม ข้อ ใช้นำมันมะรุม นวด กล้ามเนื้อ บรรเทาอาการ ปวด เมื่อย
- ใช้ทาแผล จากโรคน้ำกัดเท้า เชื้อรา ตามผิวหนัง ในซอกเล็บ
- ใช้ นวด หนังศีรษะ ลดอาการคันศีรษะ จากเชื้อรา บนหนังศีรษะ หมักผม ด้วย น้ำมันมะรุม ก่อนสระ ช่วยบรรเทา อาการ ผมร่วง


- วิธีการใช้น้ำมันมะรุม

          น้ำมันมะรุม ใช้ทา ผิวหน้า ผิวกาย เพียง 2-3 หยด ทำให้ผิวหน้า และ ผิวกาย นุ่ม เนียน ชุ่มชื้น จนสัมผัสได้ วิตามิน เอ วิตามินซี และ วิตามินอี ธรรมชาติ ในน้ำมันมะรุม ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี  ความมัน และ กลิ่น จะจางหาย ประมาณ 25 นาที
          หากใช้  ทา นวด ทันที หลังอาบน้ำ จะซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วขึ้น ทาก่อน ครีมหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดอื่นๆ ที่ใช้อยู่เป็นประจำ โดยรอให้น้ำมันซึม ประมาณ 10- 15 นาที




ขอบคุณบทความจาก ArticlesBase SC #697770 by Avon Howard แปลเป็นไทยโดย admin บจก. รีเนเจอร์



น้ำมันมะรุม

          วิธีทำน้ำมันมะรุมแบบง่าย ๆ เพื่อนใช้ในครัวเรือน โดยการนำเมล็ดมะรุมที่แห้งคาต้นมาบดให้ละเอียด ใส่หม้อ เติมน้ำให้ท่วมเมล็ดมะรุมที่บดแล้วให้เป็น 2 เท่า ตั้งไฟจนน้ำเดือด

         เดือดแล้วหรี่ไฟลง เคี่ยวไฟอ่อน ๆ ไปเรื่อย ๆ พอน้ำเริ่มงวด น้ำมันจะซึมขึ้นมา เช่นเดียวกับการทำน้ำมันมะพร้าว ไม่จำเป็นต้องรอจนน้ำ้แห้งสนิท ถ้ามีน้ำเหลือติดนิดหน่อย ไม่เป็นไร ทิ้งให้เย็น 

          นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง บีบน้ำมันออกให้มากที่สุด นำน้ำมันที่บีบได้ตั้งไฟอ่อน ๆ อีกครั้ง เพื่อให้น้ำระเหยออกให้หมด พอเย็นกรอกใส่ขวด เก็บไว้ใช้ได้นานปี ไม่ต้องใส่ตู้เย็น สำหรับกากอย่าทิ้งให้นำไปใช้กรองน้ำให้สะอาด เมื่อเสื่อมคุณภาพก็นำไปทำเป็นปุ๋ยต่อไปยังได้อีก

น้ำมันมะรุม






น้ำมันมะรุม


วิธีการสกัดน้ำมันมะรุม  Seeds of Health


          การสกัดเย็น ด้วยเครื่องสกรูเพรส (Screw Press) น้ำมันสกัดเย็น คือ การแยกน้ำมันออกจากเมล็ดโดยไม่ใช้ความร้อนและสารเคมี แล้วตั้งทิ้งไว้ให้ตกตะกอนจึงได้น้ำมันที่ใสบริสุทธิ์ และคงคุณค่าและสรรพคุณของของมะรุม
          วิธีการบีบอัดโดยเครื่องสกรูเพรส (Screw Press) น้ำมันมะรุมที่บีบออกมาโดยแรงบดไประหว่างสกรูในแนวนอน จนได้น้ำมันออกมา น้ำมันประเภทนี้จัดเป็นน้ำมันคุณภาพดี จะได้น้ำมันคุณภาพดี มีสี กลิ่น รส ตามธรรมชาติเพราะไม่ผ่านความร้อนเลย แต่จะมีความร้อนเกิดขึ้นจากแีรงเสียดสีระหว่างการบด ปริมาณน้ำมันที่สกัดได้ ประมาณ 30-40% มากกว่าการสกัดด้วยไฮโดรลิก เมื่อได้น้ำมันจะต้องนำไปกรองด้วยกระดาษกรอง
วิธีการสกัด เริ่มจากการนำเมล็ดมะรุมจากฝักแก่มาตากแดด เพื่อไล่ความชื้น แล้วทำการบีบด้วยเครื่องบีบอัดระบบสกรูเพรส จากเมล็ดมะรุมแห้งปริมาณ 8-12 กิโลกรัม จะสกัดได้น้ำมันมะรุม 1 ลิตร  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเครื่องด้วย
          ข้อดีของน้ำมันมะรุมที่สกัดด้วยวิธีนี้ : จะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูง ซึ่งกรดไขมันชนิดนี้ช่วยลอไขมันพวกไตรกลีเซอไรด์ และลดคอเลสเตอรอลไม่ดีอีกด้วย



การสกัดน้ำมันมะรุมนั้นสามารถสกัดได้อีกหลายวิธี ดังนี้

          สกัดน้ำมันมะรุมโดยการเคี่ยว (Rendering) โดยการนำเมล็ดมะรุมแก่มาบดให้ละเอียด แล้วนำไปใส่กระทะ เติมน้ำสองเท่าของเนื้อเมล็ดมะรุมที่บดแล้วนำไปตั้งไฟให้เดือดแล้วหรี่ไฟลง หลังจากนั้นก็เคี่ยวกับไปพออ่อนๆ เคี่ยวจนน้ำมันแยกตัวออกมา ลอยตัวเหนือน้ำหรือเคี่ยวจนน้ำระเหยออกหมด ก็จะได้น้ำมันออกมา แล้วกรองแยกเอาน้ำมันมะรุมมาบรรจุขวด

          สกัดน้ำมันมะรุมโดยการกลั่น นำเมล็ดมะรุมในฝักแก่ มาบดละดอียดแล้วผสมน้ำ ต้มให้เดือด 5-10 นาที แล้วยกลงจากเตา นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วใส่ขวดหรือภาชนะที่มีทรงสูง ทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อปล่อยให้น้ำมันแยกตัวเป็นชั้น จากนั้นจึงตักน้ำมันมากรองใส่ขวดเก็บไว้ ส่วนกากมะรุมที่เหลือนำไปทำปุ๋ยอินทรีย์ได้
แต่ข้อเสียของการสกัดน้ำมันมะรุมด้วยการเคี่ยว และกลั่น : ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนักเพราะคุณภาพของน้ำมันยังไม่ ค่อยดีนัก เนื่องจากผ่านความร้อนเป็นเวลานาน กลิ่นไม่หอมมาก บางครั้งมีกลิ่นเหม็นไหม้ปนมากับน้ำมัน สภาพของน้ำมันเปลี่ยนไป เช่น เหม็นหืนเร็ว เมื่อนำมาทาตัวจะเหนียงเหนอะหนะ ซึมผ่านผิวหนังได้ยากกว่าน้ำมันที่สกัดโดยไม่ผ่านความร้อน

น้ำมันมะรุม


วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

Moringa365 น้ำมันมะรุมบำรุงผิวหน้า/ผิวกาย สูตรออร์แกนนิค 100 ml. - SO-100 Org.

น้ำมันมะรุม 100 ml.

Moringa365 น้ำมันมะรุมบำรุงผิวหน้า/ผิวกาย สูตรออร์แกนนิค (100 ml. )- ORGAN-SO

Moringa365 น้ำมันมะรุมบำรุงผิวหน้า/ผิวกาย สูตรออร์แกนนิค (100 ml.)  สินค้าที่ได้รับเครื่องหมาย อ.ย. ซึ่งเป็นสินค้าที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูง

คุณสมบัติ
- Moringa365 น้ำมันมะรุมบำรุงผิวหน้า/ผิวกาย  เหมาะสำหรับผิวที่บอบบางแพ้ง่าย เช่น ผิวทารกและคนชรา ช่วยชะลอความ 
เหยี่วย่น ให้ความชุ่มชื้น บรรเทาความแตกแห้งและลดอาการผื่นคัน ช่วยฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียหลายชนิด
- ลบรอยจุดด่างดำอันเกิดจากการตากแดด
- ใช้นวดกล้ามเนื้อ และบรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามบั้นเอวและขา เนื่องจากการยืนนานๆ
- รักษาโรคเชื้อราตามผิวหนัง เช่นโรคน้ำกัดเท้า เชื้อราตามซอกเล็บ และใช้รักษาเชื้อราบนหนังศรีษะ บรรเทาอาการผมร่วงง่าย
- ช่วยลดอาการผื่นคันตามผิวหนัง ช่วยลดอาการปวดบวมจากพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- ช่วยรักษาบาดแผลถูกมีดบาด หรือแผลสดเล็กๆ น้อยๆ บรรเทาอาการอักเสบของหัวสิว


น้ำมันมะรุมบำรุงผิวพรรณ

          น้ำมันมะรุมพบมากในเครื่องสำอางหลากหลายยี่ห้อ เนื่องจากน้ำมันมะรุมทำให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวพรรณนุ่มนวล น้ำมันมะรุมสามารถใช้เป็นแชมพู หรือผลิตภัณฑ์ใช้ดูแลเส้นผม โลชั่น น้ำมันทาตัว(Body Oil) น้ำมันทาปาก ครีมลบเลือนริ้วรอยแห่งวัย ครีมทาหน้า สบู่ น้ำหอม และใช้ดับกลิ่นตัวได้   น้ำมันมะรุมยังถูกนำไปทำน้ำมันหอมระเหยและน้ำมันนวด เนื่องจากน้ำมันมะรุมสามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างรวดเร็ว จึงช่วยทำให้ผิวพรรณสาว ๆ เปร่งปรั่งดูสดใสเป็นประกาย


น้ำมันมะรุมช่วยรักษาผิวแห้ง

·   น้ำมันมะรุมช่วยให้ผิวพรรณนุ่มนวลและรักษาความชุ่มชื้นภายในผิว
·  น้ำมันมะรุมยังมีประโยชน์ในการช่วยรักษาผิวที่หยาบกร้านและแห้ง  เช่น โรคผิวหนังบางชนิด กรากเกลื้อน และโรคสะเก็ดเงิน


 น้ำมันมะรุมช่วยในการลดริ้วรอย

- น้ำมันมะรุมช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่เกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
-  สารแอนติออกซิแดนซ์และสารอาหารในน้ำมันมะรุมช่วยในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระซึ่งเป็นต้นเหตุให้เนื้อเยื่อของผิวถูกทำลายและนำไปสู่การเกิดริ้วรอยในที่สุด
- น้ำมันมะรุมช่วยแก้ไขริ้วรอยที่เกิดขึ้นและการหย่อนคล้อยของผิวหนัง
- ฮอร์โมนของพืชที่เรียกว่าไซโตไคนิน ช่วยส่งเสริมการเกิดใหม่ของเซลล์ และชะลอความเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อผิวหนัง
- น้ำมันมะรุมอุดมด้วยวิตามินซีช่วยให้คอลลาเจน(Collagen)เสถียร ช่วยลดริ้วรอยและฟื้นฟูเซลล์ที่ถูกทำลาย

น้ำมันมะรุมมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อและลดการอักเสบ

     น้ำมันมะรุมมีคุณสมบัติด้านการฆ่าเชื้อและลดการอักเสบ และใช้ในการรักษาแผลเล็กน้อยได้      
 - แผลถลอก
 - โดนข่วน
- มีดบาด
- ฟกช้ำ
- โดนไหม้เล็กน้อย
- แมลงกัดต่อย
- ผื่น
- ถูกแดดเผา
- การติดเชื้อที่ผิวหนังเล็กน้อย

ทดสอบลิงค์

ขับเคลื่อนโดย Blogger.